เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากทองคำจะสามารถเป็นสินทรัพย์ลงทุนหลักในพอร์ตลงทุนแล้ว ยังเป็นทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์อื่น เพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์มั่นคงไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา ขณะเดียวกันทองคำมีรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอีทีเอฟทองคํา (Gold ETFs) สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) และยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารการลงทุนทองคำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว สามารถลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา และปลอดภัย จึงเปิดโอกาสให้สร้างผลตอบแทนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ประเภทของทองคำ

  1. ทองคำแท่ง (Gold Bullion)
    • ทองคำแท่งมีความบริสุทธิ์สูง มักจะอยู่ที่ 99.5% ขึ้นไป ทองคำแท่งนิยมใช้เป็นการลงทุนระยะยาวและเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงทางการเงิน
  2. เหรียญทองคำ (Gold Coins)
    • เหรียญทองคำมักมีการออกแบบและสลักเป็นพิเศษ มีมูลค่าจากทั้งเนื้อทองคำและความหายาก นิยมสะสมและเป็นการลงทุน
  3. ทองคำฟิวเจอร์ส (Gold Futures)
    • การซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าในตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนจะทำกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำในอนาคต
  4. กองทุนทองคำ (Gold ETFs)
    • การลงทุนในกองทุนรวมที่มีการถือครองทองคำจริง ๆ หรือมีการอิงราคาทองคำ ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ง่ายขึ้น
  5. ทองคำทางอุตสาหกรรม (Industrial Gold)
    • ทองคำที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม และเครื่องประดับ

ความเสี่ยงของการลงทุนในทองคำ

  1. ความผันผวนของราคา:
    • ราคาทองคำสามารถผันผวนได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลาง ความไม่สงบในภูมิภาคต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
  2. ความเสี่ยงด้านการจัดเก็บ:
    • การเก็บรักษาทองคำจริง ๆ (เช่น ทองคำแท่งหรือเหรียญทองคำ) มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและประกันภัย นอกจากนี้ยังต้องหาวิธีการเก็บรักษาที่ปลอดภัยจากการโจรกรรม
  3. สภาพคล่องต่ำ:
    • การซื้อขายทองคำจริงอาจไม่ง่ายและรวดเร็วเท่ากับสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้นหรือเงินตราต่างประเทศ ทองคำจริงอาจใช้เวลานานกว่าจะสามารถขายออกได้และอาจต้องเจรจาต่อรองราคา
  4. ไม่มีดอกเบี้ยหรือเงินปันผล:
    • การถือครองทองคำไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเหมือนกับการลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตร ดังนั้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเท่านั้น
  5. ความเสี่ยงจากการซื้อขายในตลาดนอกระบบ:
    • การซื้อขายทองคำผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการหรือไม่มีมาตรฐาน อาจมีความเสี่ยงจากการได้รับทองคำปลอมหรือคุณภาพต่ำ

เหตุผลที่ควรลงทุนในทองคำ

  1. การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ:
    • ทองคำมักจะรักษามูลค่าได้ดีในช่วงที่เกิดเงินเฟ้อสูง เมื่อค่าเงินลดลง ทองคำมักจะมีราคาสูงขึ้น
  2. สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset):
    • ในช่วงเวลาที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหรือการเมือง นักลงทุนมักจะหันมาลงทุนในทองคำ เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  3. การกระจายความเสี่ยง:
    • การลงทุนในทองคำสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน โดยไม่ให้พอร์ตการลงทุนของเราขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป
  4. สภาพคล่องสูงในตลาดโลก:
    • ทองคำมีตลาดซื้อขายทั่วโลก ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำได้ง่ายในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง
  5. มูลค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม:
    • ทองคำมีประวัติการใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและการสะสมทรัพย์สินมายาวนาน การถือครองทองคำจึงมีมูลค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
  6. ป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน:
    • การถือครองทองคำสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน เนื่องจากทองคำมีการซื้อขายในหลายสกุลเงิน

การลงทุนในทองคำสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความหลากหลายและมั่นคง แต่ควรพิจารณาความเสี่ยงและผลประโยชน์อย่างรอบคอบเพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด

GOLD ทองคำ