สัญญาทางการเงินที่ทำระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยที่ผู้ซื้อจะต้องจ่ายส่วนต่างของมูลค่าสินทรัพย์ระหว่างเวลาที่ทำสัญญาและเวลาที่สิ้นสุดสัญญาโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริงๆ การลงทุนใน CFD เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งจากการขึ้นและลงของราคาสินทรัพย์
ประเภทของ CFD
- CFD หุ้น (Stock CFDs): อิงกับราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ เช่น CFD ของหุ้น Apple, Google
- CFD ดัชนี (Index CFDs): อิงกับดัชนีตลาดหุ้น เช่น S&P 500, NASDAQ, FTSE 100
- CFD สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity CFDs): อิงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
- CFD สกุลเงิน (Forex CFDs): อิงกับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ เช่น EUR/USD, GBP/USD
- CFD พันธบัตร (Bond CFDs): อิงกับราคาพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรองค์กร
- CFD คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency CFDs): อิงกับราคาคริปโตเคอเรนซี เช่น Bitcoin, Ethereum
ความเสี่ยงในการลงทุนใน CFD
- ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk): ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการขาดทุนได้
- ความเสี่ยงด้านเลเวอเรจ (Leverage Risk): CFD ใช้เลเวอเรจที่สูง ซึ่งสามารถขยายทั้งกำไรและขาดทุน
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): บางครั้งอาจไม่สามารถปิดสัญญาในราคาที่ต้องการได้เนื่องจากขาดสภาพคล่อง
- ความเสี่ยงด้านการดำเนินการ (Operational Risk): ปัญหาทางเทคนิคหรือความผิดพลาดในการดำเนินการสามารถทำให้เกิดการขาดทุน
- ความเสี่ยงด้านการจัดการเงิน (Risk of Overexposure): การใช้เลเวอเรจที่สูงเกินไปอาจทำให้ขาดทุนเกินกว่าที่เตรียมไว้
- ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามข้อบังคับ (Regulatory Risk): การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและข้อบังคับอาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย CFD
เหตุผลในการลงทุนใน CFD
- การใช้เลเวอเรจ (Leverage): CFD ใช้เลเวอเรจสูง ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงโดยใช้เงินลงทุนน้อย
- การทำกำไรได้ทั้งจากตลาดขึ้นและลง (Profit from Both Rising and Falling Markets): นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งจากการซื้อ (Long) และขาย (Short) CFD
- การเข้าถึงตลาดทั่วโลก (Access to Global Markets): CFD เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนในตลาดต่างประเทศและสินทรัพย์ที่หลากหลายได้
- ต้นทุนการซื้อขายต่ำ (Low Transaction Costs): CFD มักมีต้นทุนการซื้อขายต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการซื้อขายสินทรัพย์จริง
- การป้องกันความเสี่ยง (Hedging): นักลงทุนสามารถใช้ CFD เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์จริงได้
- การเข้าถึงและการซื้อขายที่รวดเร็ว (Ease of Access and Quick Transactions): การซื้อขาย CFD ทำได้ง่ายและรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์
การลงทุนใน CFD มีโอกาสในการทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน การใช้เลเวอเรจสามารถขยายทั้งกำไรและขาดทุน การลงทุนใน CFD ต้องอาศัยการวางแผนและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
CFD (Contract for Difference) คืออะไร